โบทูลินั่ม ท็อกซิน

โบทูลินั่ม ท็อกซิน คืออะไร?

โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โบท็อกซ์” (Botox) เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ชนิดหนึ่งที่ผลิตจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ออกฤทธิ์กับระบบประสาท ช่วยยับยั้งสารสื่อประสาทที่ส่งมายังกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว ลดการเกร็งกล้ามเนื้อ

ซึ่งในด้านความงามนั้น ด้วยประโยชน์ของโบทูลินัม ท็อกซินในการทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาริ้วรอยอย่างแพร่หลาย เมื่อฉีดโบทูลินัม ท็อกซินเข้าที่กล้ามเนื้อมัดเล็กบริเวณใบหน้า ริ้วรอยบริเวณใบหน้าจะคลายตัวลง ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง ทำให้หน้าได้รูปและมีผิวเรียบเนียน

การฉีดโบทูลินัม ท็อกซินในแต่ละครั้งจะเห็นผลเริ่มชัดขึ้นภายใน 3 – 5 วัน และเห็นผลชัดเจนหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ โดยจะออกฤทธิ์นานประมาณ 4 – 6 เดือน หลังจากนั้นอาจต้องฉีดซ้ำ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล และปริมาณยูนิตโบท็อกซ์ที่เหมาะสำหรับแต่ละตำแหน่งควรใช้เท่าไหร่ ?

  • บริเวณหน้าผาก ควรใช้จำนวนโดสยาไม่เกิน 15-20 ยูนิต เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ เนื่องจากเป็นส่วนที่แสดงสีหน้าอารมณ์ หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ กระจายยาไม่เหมาะสมอาจจะพบปัญหาหางคิ้วยกสูง จนดูเหมือนโกรธ ทำให้หน้าดุอยู่ตลอดเวลา
  • บริเวณระหว่างคิ้ว ควรใช้จำนวนโดสยาไม่เกิน 6-15 ยูนิต เพราะระหว่างคิ้วเป็นส่วนที่แสดงสีหน้าและอารมณ์ ถ้าหากใช้ปริมาณโดสยาที่มากเกินไป อาจจะทำให้ไม่เป็นธรรมชาติ และทำให้หางตาตกได้
  • บริเวณหางตา ควรใช้จำนวนโดสยาไม่เกิน 10-25 ยูนิต ในกรณีที่ใช้จำนวนโดสยามากเกินอาจจะทำให้ตาแข็ง ยิ้มดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • บริเวณกราม ควรใช้จำนวนโดสยาไม่เกิน 30-50 ยูนิต เพราะเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อใหญ่กว่าส่วนอื่นๆ จึงใช้ปริมาณโดสยาที่มากกว่า
  • บริเวณรักแร้ ควรใช้จำนวนโดสยาไม่เกิน 50-100 ยูนิต บริเวณรักแร้เป็นตำแหน่งที่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินโดสยาเท่านั้น โดยขึ้นกับการตอบสนองแต่ละบุคคลในการลดเหงื่อ
  • บริเวณน่องขา ควรใช้จำนวนโดสยาไม่เกิน 100 ยูนิต ในกรณีที่ใช้จำนวนโดสยามากเกินไป อาจจะทำให้กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง และเคลื่อนไหวร่างกายลำบาก 

ปริมาณโดสยาที่ใช้ฉีดโบท็อกซ์ของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปริมาณยูนิตที่เหมาะสม

ฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผล ใช้เวลานานหรือไม่ ?

  • โบท็อกริ้วรอย หางตา หน้าผาก ขมวดคิ้ว และลิฟท์กรอบหน้า ประมาณ 3-4 วัน จะพบว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มตึงขึ้น โบท็อกซ์แท้จะตึงเต็มที่เห็นผลใน 1-2 อาทิตย์
  • โบท็อกลดกราม การเห็นผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับขนาดกราม โดยจะใช้เวลานานกว่าฉีดริ้วรอย คือ 1 อาทิตย์ จะเริ่มกัดฟันแล้วพบว่ามีกรามเด้งออกมาเพียงเล็กน้อย พอ 2 อาทิตย์ จะพบว่ากัดฟันแล้วไม่เด้งเลย โดยจะเห็นผลว่ากรามยุบเต็มที่ใช้เวลา 2-3 เดือน

ทำไมฉีดแล้วถึงไม่เห็นผล

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ทำไมฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผล ? สำหรับสาเหตุที่ทำให้ฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผล มีหลายปัจจัยเช่นเดียวกัน โดยปัจจัยที่ทำให้ฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผลสามารถแบ่งออกเป็น 3 สาเหตุ ได้แก่ 

  • โบท็อกซ์ไม่ได้มาตรฐาน 

มีสาเหตุมาจากการที่โบท็อกซ์ผสมน้ำเกลือมากเกินไป ทำให้ตัวยาถูกเจือจาง หรือโบท็อกซ์ปลอมไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย.
นอกจากนี้การที่โบท็อกซ์ถูกเจือจางมาก ๆ จะส่งผลเสียทำให้ไม่สามารถควบคุมการกระจายตัวของยาได้ ส่งผลให้อาจเกิดอาการหางตาตก หน้าเบี้ยว และปากเบี้ยวได้

  • ฉีดโบท็อกซ์ไม่ถูกตำแหน่งกล้ามเนื้อ 

เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ เพราะแพทย์จำเป็นต้องรู้ว่าตำแหน่งไหนควรฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณกี่ยูนิต นอกจากนี้แพทย์จำเป็นต้องประเมินปริมาณยูนิตที่ใช้เหมาะสมกับแต่ละคน 

  • อาการดื้อโบท็อกซ์

สำหรับผู้ที่มีอาการดื้อโบท็อกซ์ที่มีสาเหตุมาจากเคยฉีดโบท็อกซ์ปลอม โบท็อกซ์ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. หรือ ผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์ถี่เกินไป ไม่ได้เว้นตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ อาจจะเกิดอาการดื้อยา ทำให้เมื่อฉีดโบท็อกซ์อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นโบท็อกซ์แท้ แต่ก็จะไม่เห็นผล 

 

Nabota Botox (โบท็อกซ์นาโบตะ)

Nabota ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical จากเกาหลี และเป็นผลิตภัณฑ์โบทูลินัมท็อกซินจากเกาหลีเพียงตัวเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจากอย. อเมริกา เป็นโบทูลินัมท็อกซินที่นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอยบนใบหน้า และปรับรูปหน้าให้เรียว กระชับ และเต่งตึง

จุดเด่นของ Nabota คือ มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ทำให้ออกฤทธิ์ได้ไวกว่าตัวอื่นมาก และมีโอกาสดื้อยาค่อนข้างน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ก็ให้ผลการรักษาที่สั้นกว่าตัวอื่น ๆ เช่นกัน โดยผลการรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 4 – 5 เดือน

 

Dysport (โบท็อกอังกฤษ)

โบท็อก Dysport หรือ โบท็อกซ์อังกฤษ เป็น ชื่อทางการค้าของสารสกัด ‘โบทูลินัม ท็อกซิน เอ’ (Botulinum toxin A) ซึ่งผลิตในประเทศอังกฤษ โดย โบท็อก Dysport นิยมใช้สำหรับปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย กระชับผิวและกรอบหน้า ให้กรอบหน้าชัดและผิวเต่งตึงดูอ่อนเยาว์ขึ้นโบท็อก Dysport ต่างจาก Botulinum toxin A ยี่ห้ออื่น ๆ คือ มีงานวิจัยออกมาว่าโบท็อกซ์ Dysport มีโครงสร้างของสารที่มีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกของอเมริกา สามารถกระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับใช้ฉีดลดน่อง ลดกราม ลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ เพราะสามารถกระจายได้ในบริเวณกว้าง เห็นผลชัดเจน

ข้อแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือ โบท็อกDysport มีหน่วยในการฉีดแตกต่างไปจากสารโบทูลินัมท็อกซินเอยี่ห้ออื่นๆ คือ Speywood units (s.U) โดย โบท็อกDysport 2.5 ยูนิต จะเทียบเท่ากับ 1 ยูนิตของโบท็อกอเมริกา

 

หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้โบท็อกซ์สลายช้าที่สุด

  • งดนวด กด หรือกระทำอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อก หรือนวดหน้า
    อย่านอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
  • งดการอยู่ในที่ร้อน เช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
  • งดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หลังการรักษา
  • งดการทายา หรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเช่น กรดวิตามินเอ AHA วิตามินซีเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการรักษา
  • พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
  • สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
  • สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถู
  • จะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 2-7 วัน และเห็นผลการรักษาสูงสุดใน 2 สัปดาห์
  • กลับมาพบแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ

Address

Thai International Hospital Koh Samui. 25/25 Opposite Tesco Lotus Bophut, Koh Samui, Suratthani, 84320 Thailand.

โรงพยาบาลในเครือ

Copyright © 2024 | Zasinar Clinic